‘คิชิดะ’ เตรียมขึ้นเป็น นายกญี่ปุ่นคนต่อไป หลังชนะเลือกตั้งพรรค

‘คิชิดะ’ เตรียมขึ้นเป็น นายกญี่ปุ่นคนต่อไป หลังชนะเลือกตั้งพรรค

ฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เตรียมขึ้นเป็น นายกญี่ปุ่นคนต่อไป หลังนายกฯคนปัจจุบันประกาศลาออกก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม สำนักข่าว เกียวโด รายงานว่า นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งของพรรคเสรีประชาธิปไตย เหนือนายทาโร่ โคโนะ ทำให้นาย คิชิดะ เตรียมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งร้อยของประเทศญี่ปุ่น

หลังจากที่ก่อนหน้านี้นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบันแสดงเจตจำนงไม่ลงเลือกตั้งพรรค 

เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19โดยนายคิชิดะได้รับคะแนนเสียง 257 เสียง เหนือนาย โคโนะ ที่ได้คะแนน 170 เสียง โดยนาย คิชิดะ ได้ประกาศนโยบายของเขาว่าเขาจะเปลี่ยนนโยบายจากเสรีนิยมใหม่ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ โดยนายคิชิดะตั้งเป้าให้คนรุ่นใหม่สามารถสนุกไปกับเติบโตในชีวิตได้

ก่อนหน้านี้ นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากที่ต้องเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากนายสุงะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพ่รระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการจัดสรรวัคซีน

โดยการแสดงเจตจำนงครั้งนีเกิดขึ้น ก่อนการเลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคที่จะเริ่มหาเสียงในวันที่ 17 กันยายน ก่อนจะลงคะแนนเสียงในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาวางแผนจะเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้ ทว่าการรับมือกับโควิดและการเลือกตั้งใช้พลังงานมาก และเขาไม่สามารถทำสองอย่างพร้อมกันได้ เขาจึงตัดสินใจเลือกที่ทุ่มเทให้กับโควิด-19

มีรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่คุณปู่ โอยูก้า หายตัวไปจากหมู่บ้าน เขาไม่เคยแวะกลับมาหาครอบครัวเลยสักครั้ง โดยเดินทางออกจากบ้านไปตั้งแต่ พ.ศ. 2517 ขณะที่อายุ 37 ปี เหตุผลที่ระเห็จจากบ้านเกิดเมืองนอนเพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงดูภรรยาทั้งสองและลูก ๆ อีก 5 คน

โดยคุณปู่รายนี้เดินทางไปทำงานในหลายเมือง อาชีพที่ทำก็มีทั้งชาวนาและคนงานก่อสร้าง แต่หลังจากการเฝ้ารอที่ไม่มีจุดหมาย ในที่สุดการรอคอยอันยาวนานก็สิ้นสุดลง เมื่อภรรยาทั้งสองคนตัดสินใจแต่งงานไปอยู่กินกับครอบครัวใหม่

แม้จะต้องผิดหวังจากหญิงอันเป็นที่รัก แต่คุณปู่โอยูก้า ก็ได้พบกับ อักเกรย์ โอซันจิ ลูกชายวัย 53 ปี ที่เขาทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก โดยลูกชายของเขานั่นเองที่เป็นคนพากลับมายังบ้านเกิดหลังได้เห็นโพสต์ของพลเมืองดีที่แจ้งข่าวของคุณปู่

คุณปู่โอยูก้า ยอมรับว่า แม้จะรู้กดีที่ได้กลับมายังบ้านเกิดของเขา แต่ลึกๆ เจ้าตัวเสียใจที่ภรรยาทั้งสองไม่ยอมรอเขาและตัดสินใจไปแต่งงานกับชายอื่น

“ผมหวังว่าภรรยาของผมจะอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอต้อนรับผมกลับบ้าน ยังไงผมก็ขออวยพรให้พวกเธอมีความสุขกับการแต่งงานครั้งใหม่ แต่ผมก็อยากให้พวกเธอรับรู้ว่า ผมยังมีชีวิตอยู่และพวกเธอควรหาเวลาว่างมาเยี่ยมผมบ้าง” คุณปู่โอยูก้า เผยความในใจ

ทั้งนี้ เรื่องราวช้ำรักของคุณปู่ดูจะทะแม่งๆ เล็กน้อย เพราะตอนที่หายตัวไปทำงานนั้น มีช่วงหนึ่งเขาไปอาศัยอยู่ที่แทนซาเนียนานถึง 13 ปี และได้ตกหลุมรักกับหญิงสาวคนหนึ่งและมีลูกด้วยกันอีกด้วย

แก๊งยาเสพติด ปะทะเดือดใน คุกเอกวาดอร์ ดับ 116 ศพ

เกิดเหตุความรุนแรงภายระหว่าง แก๊งอริ ภายใน คุกเอกวาดอร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงนี้แล้ว 116 ศพ เจ็บอีกเพียบ เมื่อวันที่ 30 กันยายน สำนักข่าว BBC รายงานว่าเกิดเหตุความรุนแรงภายในเรือนจำประเทศเอกวาดอร์ หลังจากที่แก๊งคู่อริปะทะกันภายในเรือนจำดังกล่าว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 116 ศพ โดยในจำนวนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ ถูกแยกชิ้นส่วนร่างกาย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 80 ราย โดยเหตุความรุนแรงครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการ

โดยทางการต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจมากถึง 400 นายในการควบคุมสถานการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเปิดเผยอีกว่ามีผู้ถูกคุมขังปาระเบิดในเหตุความรุนแรงครั้งนี้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าทั้งสองกลุ่มปะทะกันได้เนื่องจากผู้ถูกคุมขังได้มุดผ่านรูและโจมตีคู่อริ

ขณะที่สื่อท้องถิ่นระบุว่าเหตุความรุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่แก๊งค์ยาเสพติดชาวเม็กซิกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ จากเหตุความรุนแรงครั้งนี้ทำให้นาย กิลเลอร์โม ลาส์โซ ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ประกาศภาวะฉุกเฉินภายในระบบเรือนจำทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำขึ้นอีก

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงใช้เวลาถึง 2 ปี เพื่อบอกว่าเธอเกลียดเพลงนี้ มันเป็นเพลงที่มีจังหวะที่ดีมากในการร่วมเพศ ผมรู้สึกผิดพลาดตรงที่ผมควรจะถามเธอก่อนว่าเธอชอบเพลงนี้มั้ย แต่กลับปล่อยเวลาผ่านไปถึง 2 ปี โดยคิดเอาเองว่าเรามีเซ็กส์ที่ยอดเยี่ยมมาตลอด แต่ในสายตาของเธอ ทุกอย่างถูกทำลายเพราะเพลงของผม ทำให้ตอนนี้ทุกอย่างดูอึดอัดไปหมดเลย

เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ก็เป็นในระหว่างการรายงานของ เมเดลีน แรตคลิฟฟ์ ผู้ประกาศข่าวที่กำลังรายงานจาก งานคาร์นิวัล แคริบเบียน ในย่านนอตติงฮิลล์ กรุงลอนดอน อังกฤษ ก็มีกลุ่มหญิงสาวได้เดิน และเต้นผ่านกล้องไป ก่อนที่จะวกกลับมาเต้นอยู่หลังผู้ประกาศข่าวอย่างสนุกสนาน

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง